นักฟุตบอลกับรอยสัก

นักฟุตบอลกกับรอยสักนั้นถือว่าเป็นของคู่กันเลยทีเดียว เพราะปัจจุบันนักเตะส่วนใหญ่นั้นมักจะแต่งแต้มความทรงจำและความประทับใจที่พวกเขานั้นมีด้วยรอยสักบนเรือนร่าง

และรอยสักเหล่านี้ไม่ได้เป็นเพียงความทรงจำที่แสนวิเศษของพวกเขาเท่านั้นยังเป็นรอยสักที่มีความสวยงามและเป็นสิ่งที่สร้างเอกลักษณ์ให้กับตัวตนของเขาได้อย่างชัดเจนอีกด้วย แน่นอนว่ารอยสักโดยส่วนใหญ่ของนักฟุตบอลนั้นมักจะมาด้วยความทรงจำมีทั้งดีและไม่ดี

ซึ่งรอยสักของนักฟุตบอลนั้นล้วนมีความหมายและพวกเขามักจะถูกถามถึงอยู่เสมอนอกจากผลงานทางด้านการเตะแล้วนั้นรอยสักบนเรือนร่างนักฟุตบอลก็เป็นอีกสิ่งหนึ่งที่สื่อนั้นให้ความสนใจและมักจะถามถึงความหมายเหล่านั้นอยู่เสมอ

สำหรับเจ้าของรอยสักแห่งความทรงจำคนแรกนั่นก็คือ อารอน แรมซี่ หากย้อนเวลากลับไปประมาณเมื่อ10ปีที่แล้วเชื่อว่าเหล่าแฟนบอลคงจะจำเหตุการณ์ครั้งนี้ได้เป็นอย่างดีนัดที่อาเซนอลนั้นเจอกับสโต๊คซิตี้ อารอน แรมซี่นั้นได้เขาประทะกับไรอัน ชอว์ครอส

ทำให้เกิดอุบัติเหตุเข้าอย่างจังโดยขาแรมซี่นั้นหักสองท่อนและใช้ระยะเวลาในการรักษาตัวนานมากจนกว่าจะกลับมาเตะบอลได้อักครั้ง จากอุบัติเหตุในครั้งนี้นั้นจึงเป็นที่มาของศิลปะรอยสักบนเรือนร่างบริเวณขาข้างซ้ายโดยลักษณะรอยสักนั้นเป็นการสักแบบขาวดำ

และมีการสร้างสรรค์ภาพสรวงสวรรค์ที่ได้แรงบันดาลใจมาจากเซนต์ ไมเคิล สิ่งนี้นั้นทำให้แรมซี่สามารถผ่านพ้นช่วงที่เขานั้นทำการรักษาและเป็นสิ่งที่ช่วยเยียวยาจิตใจของเขาได้ โดยรอยสักสุดเท่นั้นมีการสักตั้งแต่หน้าแข้งยาวลงมาถึงข้อเท้าเลยนั่นเอง นอกจากจะเป็นรอยสักที่เท่และสวยงามแล้วนั้นยังแฝงไปด้วยความหมายอันทรงพลังด้วย

อัลเบร์โต้ โมเรโน ถึงแม้ว่าเขานั้นจะเป็นนักเตะที่ไม่ได้มีฝีเท้าที่โดดเด่นและเข้าตาแฟนบอลมากเท่าไหร่นัก แต่ถ้าหากจะพูดถึงเรื่องรอยสักแล้วละก็โมเรโนนั้นถือว่าเป็นนักฟุตบอลอีกหนึ่งคนที่มีรอยสักสุดเท่อยู่บนเรือนร่างนั่นเองและรอยสักของโมเรโนนั้น

ยังถือว่าเป็นรอยสักที่ได้รับความนิยมและพูดถึงในอันดับต้นๆของโลกเลยก็ว่าได้ เพราะรอยสักแต่ละลายบนเรือนร่างของเขานั้นก็ล้วนแฝงไปด้วยความหมายสุดลึกซึ้งทั้งสิ้นแต่รอยสักที่น่าสนใจที่สุดก็คงจะเป็นรอยสักรูป4สัตว์มหัศจรรย์

ซึ่งประกอบแด้วยรูปลิงชิมแปนซีที่ใส่แว่นและใส่หูฟังกำลังถือปืนจ่อที่ปากของตนเอง โดยภาพนี้นั้นมีความหมายถึงการไม่มอง ไม่ฟังและไม่พูดถึงสิ่งชั่วร้ายนั่นเอง และตามาด้วยสัตว์ตัวที่สองก็คือเสือพันผ้ามัดลายมีความหมายว่าความดุร้ายที่ถูกซ่อนเอาไว้ใต้ความละเอียดอ่อน หมีแฟนด้าใส่หมาก ม่าแว่นและคาบเป็ปนั้นมีความหมายถึงความเฉลียวฉลาดของสติปัญญาที่อยู่ภายใต้ความไร้เดียงสานั่นเอง

และสัตว์ตัวสุดท้ายบนเรือนร่างของโมเรโนนั้นก็คือหมาสุดรักนั่นก็คืออารี่นั่นเองโดยรอยสักนั้นเป็นหมาที่สวมนวมมีความหมายสื่อถึงความแข็งแรงเสมือนมูฮัมมัดอารีย์นั่นเอง นอกจากจะเป็นรอยสักที่สวยงามและแฝงไปด้วยความหมายแล้วนั้นรอยสักของโมเรโนก็เป็นรอยสักที่มักมีการพูดถึงอยู่เสมอๆ

 

ขอบคุณผู้ให้การสนับสนุนโดย  Sexy Gaming