กวินทร์”โชว์เซฟ! คอนซาโดเล่เปิดรังเจ๊าโยโกฮาม่า ลิ่ว8ทีมลูวาน คัพ

คอนซาโดเล่ ซัปโปโร ทีได้เปิดบ้านต้อนรับ โยโฏฮาม่า เอฟซี 1-1 และก็ยังดีพอที่มีแต้มอยู่ก็เลยทำให้เข้าสู่รอบ 8 ทีมสุดท้ายไปได้นั่นเอง ในศึกลูวานคัพ ได้อย่างสำเร็จ 

ซึ่งงานนี้ก็มี ตอง กวินทร์ ธรรมสัจจานันท์ ที่ได้เป็นรผู้รักษาประตูและก็เป็นตัวจริง ในการที่ได้ลงแข่งและยังโชว์ฟอร์มในการรับลูกได้อย่างสวยอีกด้วย  ในศึก ลูวาน คัพ ในเมื่อวานที่ผ่านมานั่นเอง  

     ในศึกของฟุตบอล ลูวาน 2020 ที่พึ่งจัดไปเมื่อวานนี้เป็นการแข่งขันกันทั้งหมด 7 คู่สนาม จากทั้งหมด 4 กลุ่ม ดดยกลุ่มที่ความหน้าสนใจนั้นก็ต้องเป็น  คอนซาโดเล่ ซัปโปโร  หลังจากที่เขาได้ลงสนามไปแล้วสามารถที่จะทำแต้มได้อย่างมีชัยเพราะว่าสามารถที่จะชนะได้ทั้งสองแต้มติดต่อกัน โดยเป็นทีมของนักเตะบ้านเรานั่นก็คือ แมสซี่เจ  ชนาธิป สรงกระสินธ์   และก็ตอง กวินทร์ ธรรมสัจจานันท์  ที่ทำการเปิดบ้านต้อนรับ โยโกฮาม่า เอฟซี 

   ซึ่งในเกมนี้เป็นเกมที่ได้ส่งผู้รักษาประตูอย่าง ตอง กวินทร์  ธรรมสัจจานันท์ นั้นเป็นผู้รักษาประตูส่วนในแมสซี่เจ นั้นไม่ได้มีรายชื่นในการลงสนามเป็นการพักผ่อน เพราะว่าไม่มีชื่อในแมตช์นี้นั่นเอง   

โดยทางด้านกุนซืออย่าง ทาคาฮิโระ ชิโมทาอิระ   ที่เป็นทีมของ โยโกฮาม่า เอฟซี  ที่ได้มีการพาทีมมีชัยชนะในนัดแรกของรายการดังนั้นก็ยังพอที่จะมีโอกาศในการที่จะพาทีมเข้ารอบอยู่นั่นเอง  และทางโค้ชนั้นก็ได้ส่งตัวแทนในระดับตำนานอย่าง  คิงคาซู  คาซูโยชิ มิอุระ เป็นหัวเรือในการออกสตาร์เป็นตัวจริงนั่นเอง 

  และในครั้ง ตองก็ได้ออกลวดลายในการรับลูกนั้นเป็นอย่างดีถึงแม้ว่าจะมีความกลัวกล้าๆนั้นมีอยู่ให้เราได้เห็นนั่นเอง แต่ว่าทางด้านจของตองก็สามารถที่จะรับลูกได้และทำให้เรานั้นสามารถที่จะเข้าชัย เป็น 8 ทีมสุดท้ายในการเข้าชิง  

แต่ไม่ว่าอย่างไรเมื่อเวลาหลังจากที่ได้หมดเวลาการแข่งขันนั้น ตอง กวินทร์ ก็ยังได้เข้าบอกกล่าวกับนักข่าวว่าผมนั้นควรที่จะทำให้ดีกว่านี้นั่นเองเพราะว่าในตอนนี้อาจจะได้เข้ารอบแล้ว แต่ว่าในเรื่องของการที่เราจะต้องพัฒนานั้นต้องทำให้ดีขึ้นกว่านี้ 

เพราะว่าผมยังทำไม่ค่อยดีเท่าที่ควรที่จะทำนั่นเอง   เพราะว่ามีช่วงหนึ่งที่ ตองนั้นต้องออกมารับลูกโดยที่ต้องทิ้งประตูเอาไว้ทำให้ตองรู้สึกว่าไม่ค่อยที่จะกล้าออกมานั่นเองเพราะว่าคงจะกลัวในเรื่องของการรับลูกไม่ค่อยดี 

 

ได้รับการสนับสนุนโดย  ufabet

บิ๊กแชมป์ ได้ส่งหนังสือไปตามทีมพร้อมที่จะช่วยเหลืออดใจรออีกนิด 

บิ๊กแชมป์ กรวีร์ ปริศนานันทกุล  ได้ร่อนนังสือไปยังทีมไทยลีกต่างๆ ได้บอกว่าเข้าใจทุกทีม  และก็ให้กำลังใจนั่นเองขอย้ำว่าในช่วงที่เรานั้นต้องมาเจอเกี่ยวกับเรื่องวิกฤตต่างๆนั้นเรานั้นอยากที่จะให้ทุกทีมนั้นมีความอดทนที่จะรออีกหน่อย

เพราะว่าในตอนนี้เรานั้นก็กำลังที่จะเร่งหาในเรื่องทางออกให้นั่นเอง และเรานั้นขอย้ำว่าเรานั้นจะช่วยเหลือทุกทีมอย่างแน่นอน เรานั้นหวังว่าจะให้ทุกทีมนั้นสามารถที่เดินไปต่อได้นั่นเอง

  

      โดยที่ข้อความทาง  บิ๊กแชมป์  กรวีร์   นันทกุล ที่ได้ส่งหนังสือไปตามทีมต่างนั้นเป็นเรื่องที่เกี่ยวกับทางสโมสร ที่ 3 – ที่ 4 ในแต่ละสโมสรนั้นเป็นเรื่องที่เรานั้นยังคงจำกันได้ดีนั่นเอง ก่อนที่เรานั้นจะมีฤดูกาลหรือจนกระทั่งมีการเปลี่ยนรูปแบบในเรื่องที่เกี่ยวกับการเปลี่ยนรูปแบบนั่นเอง 

โดยส่วนตัวของผมนั้นก็ได้มีการเดินทางไปประชุมเกี่ยวกับการการหารือ   เพื่อที่เริ่มชี้แจงทำความเข้าใจ  หรือว่ารับฟังเกี่ยวกับปัญหาหรือว่าคำตอบที่เรานั้นยังคงคาใจนั่นเอง ในเรื่องนี้นั้นตลอดมานั่นเอง  

และในช่วงเวลาที่หลายเดือนที่ผ่านมานั้น ในสถานการณ์เกี่ยวกับเรื่องโรคระบาดของโควิดนั้นทำให้เรานั้นเกิดการหยุด เลื่อนการแข่งขันกีฬาซึ่งเป็นคำสั่งที่มาจากภาครัฐนั่นเอง  เพราะว่ามีกระแสที่มาจากข่าวนั่นเอง และในส่วนตัวของผมนั้นก็รู้ว่าในเรื่องของการแข่งขัน

ซึ่งผมนั้นรับรู้และก็เข้าใจแต่ละทีมแต่ละสโมสรนั่นเอง และผมนั้นก็มีความที่เข้าใจเกียวกับเรื่องในแต่ละทีมนั้นเริ่มที่จะมีการปรับเปลี่ยนหรือว่าเริ่มที่จะมีข้อคิดแตกต่างกันออกไปนั่นเอง 

     และสิ่งที่ผมนั้นรู้สึกว่าผมนั้นไม่ค่อยสบายใจนั้นก็คือเรื่องที่เกี่ยวกับการที่จะตัดสินใจในเรื่องของการยุบหรือว่าพักทีมนั้นออกไปนั่นเองเพราะว่าเป็นการที่เรานั้นอยากที่จะให้รออีกนิดเพราะว่าผมนั้นก็เริ่มที่จะเข้าไปแก้ไขแล้วนั่นเอง เพราะว่าบางทีมนั้นก็ไม่มีเงินในเรื่องที่เกี่ยวกับการช่วยซับพอดด้วยนั่นเองและก็เป็นเรื่องที่ต้องแบกภาระเอาไว้นั่นเอง  

    เพราะว่าผมนั้นได้มีการเริ่มของการแข่งขัน นั้นจะเกิดขึ้นเมื่อไหร่ จะแข่งกันอย่างไร งบประมาณที่จะเข้ามาในเรื่องของการสนับสนุนนั้นมีเท่าไหร่นั่นเอง  และผมนั้นก็รู้และก็เข้าใจเกี่ยวกับเรื่องนี้นั้นมาโดยตลอดนั่นเอง

เพราะว่าผมนั้นได้เข้าไปลงพื้นที่นั้นผมนั้นจะรับรู้เกี่ยวกับเรื่องนี้ได้อย่างที่เข้าใจมากที่สุดนั่นเอง  เพราะว่าในแต่ละทีมนั้นก็ไม่ได้มีเงินอะไรนั้นมากมายนั่นเอง  ซึ่งผมนั้นมีความเข้าใจว่าต้องเจออะไรนั้นมากมายและผมนั้นก็ไม่เคยที่จะทิ้งไปไหนนั่นเองและก็ยังคงอยู่เพื่อที่จะได้ช่วยเหลือเหมือนเดิม 

 

ได้รับการสนับสนุนโดย    Gclub ฝากขั้นต่ํา 100

กุนซือยอดเยี่ยมพรีเมียร์ลีกยุคโควิด

ผ่านไปอย่างรวดเร็วเกือบหนึ่งเดือนแล้วที่การแข่งขันฟุตบอลพรีเมียร์ลีก ได้กลับมาเริ่มทำการแข่งขันกันแบบรีสตาร์ทกันอีกครั้งหลังจากที่ต้องมีการหยุดเตะกันไปเนื่องจากการระบาดของไข้ไวรัสโควิด19

และก็เป็นธรรมเนียมกันเป็นประจำของการแข่งขันฟุตบอลพรีเมียร์ลีกที่หลังจากจบในแต่ละเดือนจะมีการเอาคะแนนเฉพาะเดือนนั้น หรือการคุมทีมอันยอดเยี่ยมในแต่ละเดือนของบรรดากุนซือหรือผู้จัดการทีมพรีเมียร์ลีกแต่ละคนมานั่งวัดผลกันว่าใครที่ควรจะได้รับตำแหน่งผู้จัดการทีมยอดเยี่ยม

ซึ่งในเดือนมิถุนายนที่ผ่านมานั้น มีผู้จัดการทีมที่ติดโผจะได้ตำแหน่งนี้ด้วยกันถึงสี่คน ซึ่งคนแรกนั้นก็คือ แฟรงค์ แลมพาร์ด กุนซือหนุ่มไฟแรงที่ก่อนหน้าที่จะหยุดพักโควิด19 ไปนั้น ทีมของผู้จัดการทีมคนนี้ก็ทำได้ดีอยู่แล้ว และพอหลังจากกลับมาฟอร์มก็ยังไม่มีตก

ด้วยการคว่ำทีมเรือใบสีฟ้า แมนซิตี้ไปได้ และส่งผลให้ทางหงส์แดงคว้าแชมป์พรีเมียร์ลีกสมัยแรกไปในทันที และยังเก็บชัยในการแข่งขันเอฟเอคัพ ส่งทีมตัวเองเข้าสู่รอบรองชนะเลิศไปเป็นที่เรียบร้อย ซึ่งต้องยกเครดิตให้กับกุนซือคนนี้เลย

ส่วนคนต่อมา ไม่น่าเชื่อว่าจะเป็นไปได้ เพราะคนนั้น คือสตีฟ บรูซ ที่ช่วงพักโควิด มีข่าวหนาหูเหลือเกินว่าจะถูกปลดออกจากทีม หากมีการเทคโอเวอร์ของกลุ่มอาหรับต่อสโมสรนิวคาสเซิ่ลจริงๆ แต่ไม่ว่าอย่างไรเรื่องยังไม่เกิดขึ้น สตีฟ บรูซ ก็ยังคงทำหน้าที่ต่อไป

และทำได้ดีเกินคาด เพราะหลังจากกลับมารีสตาร์ทกันอีกครั้ง กุนซือคนนี้พาทีมไม่แพ้ใครเลยตลอดสามนัด และเป็นการชนะสองและเสมอหนึ่ง จนทีมนั้นรอดตกชั้นเป็นที่เรียบร้อย ซึ่งถือว่าน่าจับตามองจริงๆ

ว่าหากมีการเปลี่ยนเจ้าของทีม กุนซือคนนี้ยังคงจะได้ทำทีมต่อหรือไม่ ส่วนคนต่อมานั้น ว่ากันว่าฤดูกาลหน้าจะขึ้นมาร่วมวงท้าชิงแชมป์พรีเมียร์ลีกกับเค้าด้วยนั่นคือ โอเล่ กุนนาร์โซลชา ซึ่งต้องบอกว่าหลังจากที่ทีมได้จิกซอว์ตัวสำคัญอย่าง บูรโน่ แฟร์นันเดส แล้วนั้น

ทีมผีแดงถือว่าลงตัวอย่างที่สุดและหลังจากรีสตาร์ทกลับมา ยังได้ ป๊อกบา หายเจ็บมาร่วมทีมอีก จนผลงานนั้นสุดยอดเหลือเกิน และมีโอกาสที่จะคว้าตั๋วยูฟ่า แชมป์เปี้ยนลีกได้อีกด้วย ส่วนคนสุดท้ายคือ นูโน่ เอสปิริโต้ ซานโตส กุนซือที่เปลี่ยนทีมวูลฟ์ให้กลายเป็นทีมที่ทุกคนประมาทไม่ได้ และผลงานยังร้อนแรงต่อเนื่องตั้งแต่ก่อนปิดโควิด จนมาถึงปัจจุบัน ซึ่งก็เป็นอีกคนที่มีลุ้นจะได้รางวัลนี้เช่นกัน

 

สนับสนุนโดย  สมัครบาคาร่า เว็บไหนดี

ลิเวอร์พูลเจอกับเบิร์นลีย์

ลิเวอร์พูลเจอกับเบิร์นลีย์ ทำได้เพียงเสมอ ทำ เยอร์เกน คลอปป์ เสียใจ

 วันที่ 12 เดือนกรกฎาคม  ปี พ.ศ. 2563 ผู้จัดการทีมของทีมลิเวอร์พูล   เยอร์เกน คลอปป์ได้ออกมาพูดถึงความรู้สึกของเขาหลังจากที่ในคืนวันเสาร์ ที่ 11 เดือนกรกฎาคมปีพศ2563 ที่ผ่านมานั้นทางด้านทีมหงส์แดงลิเวอร์พูลได้มีการเปิดสนามในบ้านเกิดของตนเอง

เพื่อต้อนรับทีมคู่แข่งอย่างทีม เดอะ คลาเรตส์ เบิร์นลีย์ โดยทางด้าน   เยอร์เกน คลอปป์ดีออกมาพูดถึงเรื่องนี้ว่าในการแข่งขันในคืนนั้นเขายอมรับปริวาสเขารู้สึกเสียความรู้สึกกับนักเตะทีมลิเวอร์พูลเป็นอย่างมากเพราะที่จริงแล้วโอกาสที่ทีมลิเวอร์พูลจะชนะนั้นมีค่อนข้างสูงมากพวกเขาสามารถที่จะเตะทำประตูให้กับลิเวอร์พูลได้หลายครั้งแต่นักฟุตบอลก็ทำให้โอกาสที่มีอยู่แล้วนั้นพลาดไป

และถึงแม้ว่าทางทีมลิเวอร์พูลนั้นจะมีโอกาสที่จะเตะฟุตบอลเข้าประตูก่อนและ โอกาสทำคะแนนได้ก่อนแต่ท้ายที่สุดแล้วทั้งทีมลิเวอร์พูลเองก็ต้องมาถูกตีเสมอในเวลาต่อมาจากการที่นักเตะของทางด้านทีม  เดอะ คลาเรตส์ เบิร์นลีย์ ยิงเข้าประตูของลิเวอร์พูลได้ในนาทีที่ 69

ซึ่งคนที่เตะให้กับทีม เดอะ คลาเรตส์ เบิร์นลีย์ และเป็นคนที่ทำให้ทีม เดอะ คลาเรตส์ เบิร์นลีย์ สามารถเอาเสมอทีมลิเวอร์พูลได้นั่นก็คือ เจมส์ โรดริเกซ ทางด้านผู้จัดการทีมของทีมลิเวอร์พูลนั้นเขาพูดถึงเกี่ยวกับเรื่องของการทำประตูของทีมว่าถ้าหากลูกทีมของเขาทำประตูได้เร็วมากกว่านี้

และได้เยอะกว่าที่เป็นอยู่นี้การแข่งขันครั้งนี้ก็จะนำชัยชนะมาให้กับทีมลิเวอร์พูลได้อย่างแน่นอน ซึ่งเขามองว่าโอกาสที่ลิเวอร์พูลจะมีการทำประตูได้มากถึง 3 หรือ 4 ประตูนั้นมีได้มากเลยทีเดียวแต่นักเตะของพวกเขานั้นกลับทำให้ลูกบอลไปอยู่ในจุดที่เป็นเขตอันตรายและในที่สุดพวกเขาก็ต้องเสียประตูให้กับฝ่ายตรงข้ามไปถึงแม้ว่าเขาจะรู้ว่าลูกทีมของเขาทำได้ดีที่สุดแล้วแต่เขาก็รู้สึกเสียดายต่อการได้รับคะแนนเสมอกันในครั้งนี้เป็นอย่างมาก

       สำหรับทีมลิเวอร์พูลนั้นตั้งแต่ได้มีการได้รับแชมป์ของพรีเมียร์ลีกอังกฤษไปการแข่งขันของทีมลิเวอร์พูลนั้นค่อนข้างที่จะมีปัญหามากสำหรับคนที่รับชมการแข่งขันฟุตบอลเพราะมองว่าทางนักเตะนั้นไม่ค่อยสนใจที่จะเตะให้ทีมของตนเองชนะ

ซึ่งอาจจะเป็นเพราะว่าไม่ว่าจะเตะชนะหรือแพ้พวกเขาก็ได้แชมป์พรีเมียร์ลีกไปแล้วนั่นเองแต่อย่างไรก็ตามการที่นักเตะของทางลิเวอร์พูลนั้นไม่มีความกระตือรือร้นในการแข่งขันในแต่ละครั้งก็อาจจะทำให้แฟนบอลนั้นเกิดความรู้สึกไม่ประทับใจกับทีมฟุตบอลที่พวกเขาชื่นชอบก็เป็นไปได้

 

ขอขอบคุณผู้ให้การสนับสนุนโดย  ทดลองเล่นบาคาร่า