ขับรถตอนกลางคืนอย่างไรให้ปลอดภัย

   ขับรถกลางคืนอย่างไรให้ปลอดภัย      ใกล้สิ้นปีอีกรอบ มีวันหยุดยาวให้หยุดติดต่อกันหลายวัน หลายครอบครัวเลือกที่จะเดินทางไปพักผ่อนที่ต่างจังหวัดและอีกหลายคนที่เดินทางมาทำงานต่างถิ่นก็จะได้หยุดกลับไปบ้านเกิด

ดังนั้น ในช่วงวันหยุดยาวนี้รถราบนท้องถนนจะมากเป็นพิเศษ ผู้คนส่วนใหญ่จึงเลือกที่จะเดินทางในเวลากลางคืนเพื่อหลีกเลี่ยงที่รถเยอะในตอนกลางวันแล้ว การเดินทางตอนกลางคืนยังอากาศเย็นสบายมากกว่าตอนกลางวันอีกด้วย

          การเดินทางตอนกลางคืนผู้ที่เดินทางควรมีการเตรียมตัวให้พร้อมทั้งกายและใจ เพราะการขับรถตอนกลางคืนต้องใช้สมาธิมาก อีกทั้งยังเรื่องแสงสว่างที่บางจุดอาจไม่มีไฟทางทำให้การขับรถกลางคืนลำบากกว่าตอนกลางวันได้

แต่คนส่วนใหญ่ก็เลือกที่จะเดินทางตอนกลางคืน เพื่อที่จะได้ถึงที่หมายในตอนเช้า และจะไม่มีเวลาเที่ยวให้นานมากขึ้น ดังนั้นวันนี้เราจึงมีวิธีการขับรถในตอนกลางคืนให้ปลอดภัย ไร้อุบัติเหตุมาบอกันค่ะ

  1. ก่อนเดินทางไกลควรมีการเตรียมร่างกายให้พร้อม นั่นก็คือการนอนหลับพักผ่อนให้เพียงพอ เพราะหากร่างกายไม่พร้อม มีการง่วงนอนระหว่างขับรถจะทำให้เกิดอุบัติเหตุได้ง่าย
  2. เมื่อร่างกายพร้อมแล้ว รถยนต์ของคุณก็ต้องพร้อมด้วย ควรมีการนำรถเข้าศูนย์เพื่อตรวจสอบรถยนต์ให้อยู่ในสภาพพร้อมใช้งานทั้งระบบไฟของรถ ระบบเบรก ระบบแอร์ ทุกอย่างของรถยนต์ไม่ควรมีปัญหา เพื่อที่จะไม่ได้เกิดอุบัติเหตุ
  3. หากเราต้องขับรถ อันที่จริงไม่ว่ากลางวันหรือกลางคืน ไม่ควรทานยาที่จะทำให้เกิดอาการง่วง เพราะจะเป็นอันตราย แต่ถ้าง่วงจริงๆ ควรหาจุดจอดรถแล้วงีบหลับสัก 15-30 นาที เพื่อป้องกันการเกิดอุบัติเหตุที่อาจเกิดขึ้นได้
  4. การขับรถตอนกลางคืนให้ระมัดระวังไหล่ทางที่มักจะมีรถมาจอดเป็นจำนวนมาก เช่น รถสิบล้อที่มักพักนอนหลับ หรือบางครั้งรถที่เสียก็จะมีการจอดรอช่างตามไหล่ทาง ดังนั้นควรสังเกตถนนและไหล่ทางให้ดีๆ อย่าขับชิดไหล่ทางมากเกินไป
  5. การขับรถที่ดีไม่ว่าจะกลางวันหรือกลางคืนไม่ควรขับรถจี้ตูดรถคันอื่นมากนัก ควรเว้นระยะไว้บ้างเผื่อกรณีฉุกเฉินจะได้เบรกได้ทัน
  6. และอีกอย่างที่เวลาขับรถกลางคืนควรทำคือ ไม่ควรขับรถเร็วมากนัก และควรมีการจอดพักเป็นระยะทุกๆ 2 ชั่วโมงถึงแม้จะไม่ง่วงก็ตามเพื่อให้ร่างกายได้พักผ่อน และรู้สึกกระปรี้กระเปร่าตลอดเวลา ควรหาซื้อน้ำเย็นๆชื่นใจ เอาไว้ดื่มตลอดทาง 

          นี่เป็นหลักการขับรถในตอนกลางคืนคร่าวๆที่จะทำให้คุณปลอดภัยจากอุบัติเหตุ และหากเป็นไปได้ก็หาผู้ร่วมทางนั่งพูดคุยเป็นเพื่อนหรือเตรียมเพลงมันส์ๆเอาไว้เปิดฟังเวลาขับรถจะได้ไม่รู้สึกง่วงนอน

Ford V Ferrari เรื่องจริงที่กลายเป็นหนังราวัล Oscars

Ford V Ferrari ก็พึ่งผ่านกันไปมาด ๆ กับการประกาศรางวัลออสการ์สุดยิ่งใหญ่ที่ทุกคนรอคอยกันทุกปีนะคะ เช่นเดิมปีนี้ก็มีหนังเข้าชิงรางวัลอยู่มากมายหลานสาขา และหนึ่งในหนังในหลังที่มีรายชื่อเข้าชิงรางวัลมากที่สุด เป็นหนังที่ทำจากเรื่องจริง  แต่ช่างน่าเสียดายที่ภาพยนต์ ได้รับเพียงราวัลตัดต่อเสียงยอดเยี่ยม เพราะโดยส่วนตัวแล้ว ผู้เขียนคิดว่าหากใครยังไม่มีโอกาสได้ดูก็อยากให้ลองกันสักครั้งค่ะ

FORD V FERRARI การชิงชัยของสองยักต์ใหญ่ ที่กลายเป็นตำนานโล์ก สมชื่อไทย อย่าง ใหญ่ชน ยักต์  เรากำลังพูดถึง 24 HOURS OF LE MANS หรือ เลอ ม็องส์ 24 ชั่วโมง รายการแข่งขันรถยนต์แบบเอ็นดูรานซ์ (ENDURANCE)

ที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในโลก คือลานประลองศักดิ์สิทธิ์ ที่ค่ายรถยนต์ยักษ์ใหญ่ทั่วโลกจะส่งรถที่ดีที่สุดของตัวเองมาพิสูจน์ให้ทุกคนได้รู้ว่าใครคืออันดับหนึ่ง ทั้งในแง่ของความเร็ว และความทนทาน

โดยปกติในทุกๆ ปี เลอ ม็องส์ 24 ชั่วโมง ก็เป็นรายการแข่งขันใหญ่ที่ทุกคนให้ความสนใจอยู่แล้ว แต่ในปี 1966 มีสิ่งหนึ่งที่ทำให้การแข่งขันครั้งนี้มีกลิ่นอายว่ามันจะดุเดือดยิ่งกว่าทุกครั้ง และจะถูกบันทึกลงในหน้าประวัติศาสตร์เป็นที่เล่าขานไปอีกนาน เพราะมันคือสงครามที่มีศักดิ์ศรีของสองค่ายรถยนต์มหาอำนาจโลกเป็นเดิมพัน นี่คือศึกตัดสินระหว่าง ฟอร์ด กับ เฟอร์รารี่

เมื่อทุกอย่างพร้อม สัญญาณเริ่มการแข่งขันก็ดังขึ้น เหล่าอาชาเหล็กต่างก็พุ่งทะยานไปข้างหน้าอย่างพร้อมเพรียง และในอีก 24 ชั่วโมงต่อจากนี้ก็จะรู้ผลว่าใครคือผู้ชนะ ขึ้นชื่อว่าเป็นการแข่งขัน เลอ ม็องส์ 24 ชั่วโมง ไม่มีคำว่าง่าย ไม่ใช่แค่ทุ่มเงินอย่างเดียวแล้วจะเอาชนะได้

การจะเป็นผู้ชนะในรายการนี้ต้องมีอะไรมากกว่านั้น  GT40 ของฟอร์ดเป็นรถที่เร็วที่สุดในสนามก็ว่าได้ แต่ปัญหาคือพวกเขาไม่สามารถหาวิธีให้มันวิ่งได้ครบ 24 ชั่วโมง รถแต่ละคันของฟอร์ดต่างมีปัญหา ทั้งเกียร์พัง ปะเก็นฝาสูบขาด และในที่สุดอาชาเหล็กตัวนี้ก็ไม่อาจฝืนสังขารตัวเองได้ ต้องออกจากการแข่งขันไปอย่างน่าเจ็บใจ 

“พวกเขาใช้เงินจำนวนมาก แต่นั่นก็ไม่รับประกันว่าคุณจะชนะการแข่งขัน” เพรสตัน เลอร์เนอร์ ผู้เขียนหนังสือ Ford GT: How Ford Silenced the Critics, Humbled Ferrari and Conquered Le Mans 

หลังจากล้มเหลวในปี 1964 ฟอร์ดก็ตั้งความหวังว่าปีหน้าจะเป็นปีที่พวกเขาได้ก้าวสู่บังลัง แต่เหมือนภาพติดตา การแข่งขัน เลอ ม็องส์ 24 ชั่วโมงปี 1965 ฟอร์ดก็ไม่สามารถประคองรถ GT40 ให้วิ่งครบ 24 ชั่วโมงได้แม้แต่คันเดียวอีกครั้ง ซึ่งปัญหาที่พบก็เป็นปัญหาเดิม ๆ และที่น่าเจ็บใจยิ่งไปกว่านั้น  ผู้ชนะของทั้งสองปีคือรถยนต์จากค่าย เฟอร์รารี่

อย่างไรก็ตาม ผู้ชายอย่าง เฮนรี่ ฟอร์ด ที่สอง ไม่ใช่คนที่ยอมแพ้ง่ายๆ ยิ่งแพ้เขายิ่งรู้สึกอยากชนะ เขาทุ่มงบประมาณเพิ่มเพื่อสร้างรถยนต์คันใหม่ที่จะพาเขาสู่เส้นทางแห่งผู้ชนะ  GT40 Mark II 

ในบทวามหน้าเราจะมาดูกันว่า Ford จะแก้เกมส์อย่างไรเพื่อเอาชนะ ค่ยคู่แข่งยักษร์ปักหลั่นอย่าง Ferrari

 

สนับสนุนโดย  gclub

พวกเราควรจะทำยังไงหากจำต้องขี่รถไปในทางที่จำเป็นต้องพบกับปัญหารถติด 

ปัญหารถติด   เป็นที่เข้าใจกันดีอยู่แล้วว่าเมืองไทยนั้นชอบมีปัญหาเรื่องจำนวนรถยนต์มากยิ่งกว่าจำนวนถนนหนทางด้วยเหตุนี้ในตอนที่เป็นชั่วโมงเร่งรีบที่ผู้คนต่างก็รีบไม่ว่าจะรีบไปสถานที่เรียนหรือไปปฏิบัติงานคือการที่จะรีบออกไปพบลูกค้าตั้งแต่ยามเช้าในเวลาเช้าตั้งแต่ 07:00 น. ถึง 08:00 น.

ตอนเช้าจะมีผลให้ตอนนี้ถนนหนทางดูเหมือนจะทุกเส้นในเขตจังหวัดกรุงเทพมีจำนวนรถยนต์ที่หนาแน่นซึ่งบอกได้เลยว่าถ้าเกิดคนใดกันที่จะจำต้องตื่นมาแล้วจะต้องพบกับปัญหารถติดอย่างนี้วันแล้ววันเล่าจากผู้ที่เคยบางทีอาจจะทำให้ท่านเปลี่ยนเป็นผู้ที่รำคาญแล้วก็ขี้รำคาญได้ง่ายและเมื่อพวกเราจำเป็นต้องไปอยู่ในเหตุการณ์ที่เกิดปัญหารถติดบางโอกาสพวกเราก็พบเหตุที่รีบด่วน

ซึ่งหาทางออกไม่ได้พวกเราจึงควรมีการเตรียมพร้อมถ้าพวกเราจำเป็นที่จะต้องไปในทางที่มีเหตุการณ์รถติดจริงๆพวกเรามาดูกันว่าหาจะต้องขับไปในบริเวณที่ขึ้นชื่อว่าเป็นบริเวณที่มีปัญหาเกี่ยวกับรถมากการเตรียมตัวยังไงถึงจะเป็นสิ่งที่ดีที่สุด 

เริ่มแรกเลยหากคุณจะต้องออกมาจากบ้านของคุณคุณควรจะมีการจัดแจงธุระของคุณให้เรียบร้อยไม่ว่าจะเป็นการปัสสาวะหรืออุจจาระเพื่อที่คุณจะได้ไม่มีปัญหาระหว่างการเดินทางซึ่งในกรุงกรุงเทพมหานครยิ่งแล้วใหญ่เพราะว่าจะหาปั๊มระหว่างทางค่อนข้างยากและถ้าหากรถติดจะทำให้คุณไม่สามารถหนีไปเข้าห้องน้ำที่ไหนได้เลยและที่สำคัญก่อนออกจากบ้านคุณควรจะทานอาหารเช้ามาให้เรียบร้อย

เพราะอย่างที่เราทราบกันดีว่าถ้าบริเวณไหนที่มีปัญหารถติดบางครั้งตรงจุดนั้นอาจจะติดนานถึงครึ่งชั่วโมงหรือ 1 ชั่วโมงเลยก็ได้ซึ่งถ้าหากเราไม่ทานอะไรแล้วเกิดมาหิวระหว่างทางขึ้นมาแล้วแล้วก็คุณจะรู้สึกว่าการมาหูหิวมันแย่มากแค่ไหนหรืออาจเป็นไปได้คุณอาจจะ เตรียมขนมปังหรือแซนด์วิชใส่กล่องมากินระหว่างทางก็ได้เพื่อเป็นการเตรียมความผอมหากคุณหิวเมื่อไหร่ก็หยิบขึ้นมากินได้ทันที

และที่สำคัญอย่าลืมนำน้ำไม่ว่าจะเป็นน้ำเปล่าหรือกาแฟติดรถขึ้นมาด้วยเพื่อจะได้ช่วยให้คุณมีอะไรกินในระหว่างที่รถติดอยู่ซึ่งถ้าหากเป็นกาแฟก็จะทำให้คุณหายง่วงนอนในยามเช้าที่ต้องตื่นขึ้นมาแล้วเมื่อเจอกับปัญหารถติดได้ในระหว่างทีรถติดคุณสามารถเปิดเพลงฟังหรือเปิดฟังข่าวระหว่างที่รอให้รถเคลื่อนตัวไปก็ได้จะช่วยให้คุณไม่เครียดกับสถานการณ์รถติดได้เป็นอย่างมาก  

 

ขอขอบคุณ  gclub  ที่ให้การสนับสนุน